แบ่งปันเคล็ด (ไม่) ลับ 7 วิธีรักษาภูมิแพ้ด้วยตัวเอง

อาการของโรคภูมิแพ้ เช่น คัดจมูก คันจมูก จามตอนกลางคืน หรือแม้แต่ตอนกลางวัน ถึงแม้จะไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ก็สร้างความรำคาญ อีกทั้งยังรบกวนคุณภาพชีวิตเป็นอย่างมาก เพื่อช่วยให้สามารถรับมือกับอาการภูมิแพ้ตอนกลางคืน รวมถึงตอนกลางวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามีวิธีรักษาโรคภูมิแพ้อากาศมาแนะนำกัน

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาภูมิแพ้ด้วยตัวเอง

  1. ปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน:  สารก่อภูมิแพ้ที่มาจากไรฝุ่น สปอร์ของเชื้อรา สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง และละอองเกสร สามารถเกาะติดบนร่างกาย เสื้อผ้า หรือเส้นผมได้ ดังนั้นการสร้างลักษณะนิสัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน การเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างมือ หรือล้างหน้าทันทีที่กลับจากภายนอกบ้าน จะช่วยลดโอกาสในการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้การปลูกฝังลักษณะนิสัยดังกล่าวให้แก่เด็ก ๆ ภายในบ้านที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคภูมิแพ้ ก็สามารถจะช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ได้เช่นกัน
     
  2. การทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้านอน:  สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ มีวิธีรักษาและการป้องกันง่าย ๆ อย่างการอาบน้ำ รวมถึงการสระผมก่อนเข้านอนในตอนกลางคืน เนื่องจากเป็นวิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ที่ติดอยู่บนเส้นผมหรือผิวหนังสัมผัสกับที่นอน โดยมีข้อควรระวังเพิ่มเติมคือ การเป่าผมให้แห้งสนิทก่อนเข้านอน มิเช่นนั้นอาจเกิดปัญหารังแค หรือเชื้อราบนหนังศีรษะตามมาได้
     
  3. การทำความสะอาดบ้าน:  ฝุ่นละอองภายในบ้านเป็นตัวการสำคัญของการเกิดโรคภูมิแพ้ การใช้เวลาในการเก็บกวาดและดูดฝุ่นเพียง 10 นาทีต่อวัน จะช่วยลดการสะสมของฝุ่นภายในบ้านได้ โดยวิธีการเก็บกวาดฝุ่นในบ้านอย่างถูกต้อง คือ ควรใช้ฟองน้ำที่ชุบน้ำหมาด ๆ ในการเช็ดพื้นผิวต่าง ๆ และถูพื้นบ้านเป็นประจำ นอกจากนี้ เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ควรมีการติดตั้ง HEPA Filter หรือ Double-vacuum Bag และควรสวมหน้ากากและถุงมือขณะทำความสะอาดบ้าน เพื่อลดการสัมผัสกับฝุ่นละออง
     
  4. การลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน:  การทำความสะอาดเครื่องนอนและผ้าห่มในน้ำร้อนที่อุณหภูมิอย่างน้อย 54 องศาเซลเซียส ทุกสัปดาห์ จะช่วยป้องกันการเกาะติดของสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทผู้ผลิตเครื่องนอนแต่ละชนิดด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเส้นใยและคุณสมบัติของผ้า
     
  5. การติดตามระดับความชื้น:  โดยปกติการวัดความชื้นในอากาศจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Hygrometer (ไฮกรอมิเตอร์) ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป หากระดับความชื้นในอากาศมากกว่า 50% จะเป็นระดับความชื้นที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อราในที่อยู่อาศัย อาจแก้ไขด้วยการนำเครื่องดูดความชื้นไปวางไว้ในบริเวณดังกล่าว เพื่อควบคุมระดับความชื้นให้อยู่ในระดับปกติ
     
  6. พกยาแก้แพ้ติดตัว:  ในบางครั้งการป้องกันโรคภูมิแพ้อากาศด้วยวิธีรักษาความสะอาดต่าง ๆ ที่กล่าวมา อาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยบางราย การเตรียมยารักษาโรคภูมิแพ้ติดตัวไว้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น หากมีอาการภูมิแพ้กำเริบ คุณสามารถรับประทานยารักษาโรคภูมิแพ้ที่เตรียมไว้ได้ทันที และสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
     
  7. ให้คำแนะนำบุตรหลานเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้:  โดยปกติเด็ก ๆ มักจะถูกดึงดูดความสนใจไปกับกิจกรรมที่สนุกในระหว่างวัน จนลืมคำนึงถึงการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ ดังนั้น การอธิบายให้เข้าใจถึงโรคภูมิแพ้ และคำแนะนำในการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ย่อมลดโอกาสในการเกิดโรคภูมิแพ้ รวมถึงทำให้ควบคุมอาการของโรคได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วย